"BiG BeArS"
หมีเป็นสัตว์ที่มีถิ่นอาศัยกระจายไปทั่วภูมิภาคของโลก
เช่น หมีแพนด้าพบในประเทศจีน หมีแว่นจะพบที่อเมริกาใต้
หมีดำจะพบทางตอนเหนือของอเมริกา หมีสีน้ำตาลจะอยู่แคนาดา
หมีหมาหมีควายจะพบที่ประเทษไทย เป็นต้น ส่วนใหญ่หมีจะอยู่ตามภูเขา ป่า หรือสวนสัตว์
ส่วนใหญ่คนจะไม่ค่อยรู้จักว่าหมีมีกี่ชนิด อยู่ส่วนไหนในโลกบ้าง
ที่ดิฉันทำเรื่องหมีอยากจะศึกษาและรวบรวมข้อมูลให้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง หมี
หมีมีกี่ชนิด มีลักษณะอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ไหน ใกล้จะสูญพันธุ์รึยัง
และในการศึกษาครั้งนี้ คงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยที่จะศึกษาเรื่องหมี
เรามารู้จักหมีกันดีกว่า
ลักษณะของหมี...
หมี Bear จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับสัตว์กินเนื้อ จัดอยู่ในวงศ์ Ursidae ออกลูกเป็นตัว ตาและใบหูกลมเล็ก ริมฝีปากยื่นแยกห่างออกจากเหงือก
สามารถยืนและเดินด้วยขาหลังได้ ประสาทการดมกลิ่นดีกว่าประสาทตาและหู กินได้ทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหารหมีจัดเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่
ปัจจุบันได้มีการจำแนกหมีออกเป็นทั้งหมด 8 ชนิด (ไม่นับชนิดย่อย) โดยมีการกระจายพันธุ์ไปในทุกภูมิภาคของโลก
ตั้งแต่ ไซบีเรียหรือขั้วโลกเหนือ, ทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปอเมริกาใต้, เอเชียใต้, เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่พบที่ทวีปแอฟริกา และโอเชียเนีย
แพนด้ายักษ์ หรือ ไจแอนท์แพนด้า Giant panda
หรือที่นิยมเรียกว่า หมีแพนด้า เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมซึ่งปัจจุบันจัดอยู่ในวงศ์หมี (Ursidae)
ถิ่นอาศัยอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน อาหารโปรดของแพนด้ายักษ์คือใบไผ่ นอกนั้นจะเป็นหญ้าชนิดอื่น ๆ
ลักษณะเฉพาะของแพนด้ายักษ์คือมีขนสีดำรอบดวงตา, ใบหู, บ่า
และขาทั้งสี่ข้าง ส่วนอื่นประกอบด้วยขนสีขาว
ปัจจุบันแพนด้ายักษ์เป็นหนึ่งในสัตว์สายพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของโลก
ตามรายงานล่าสุดมีแพนด้าที่เลี้ยงในกรงเลี้ยง 239 ตัวอยู่ในจีน และอีก 27 ตัวอยู่ในต่างประเทศ มีการคาดการณ์ไว้ว่ามีแพนด้ายักษ์ประมาณ 1,590
ตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติอย่างไรก็ดี ปี ค.ศ. 2006 ผ่านการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ สามารถประมาณการได้ว่าอาจจะมีแพนด้ายักษ์เป็นจำนวนถึง
2,000-3,000 ตัวอาศัยอยู่ตามธรรมชาติซึ่งแสดงให้เห็นว่าจำนวนแพนด้าตามธรรมชาติเพิ่มจำนวนขึ้นสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่มีความแน่นอนพอที่จะย้ายชื่อแพนด้ายักษ์ออกจากบัญชีรายชื่อสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์
แพนด้ายักษ์มีถิ่นอาศัยอยู่ตามพื้นที่ภูเขา
เช่น มณฑลเสฉวน ซานซี กานซูและทิเบต แพนด้ายักษ์เป็นสัญลักษณ์ของกองทุนสัตว์ป่าโลก องค์กรด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า ตั้งแต่ช่วงหลังของศตวรรษที่ 20 แพนด้าได้กลายเป็นสัตว์ประจำชาติของประเทศจีน
และรูปภาพของมันได้อยู่บนเหรียญทองของจีน
ถึงแม้พวกมันจะจัดอยู่ในวงศ์ของหมี
แต่พฤติกรรมการกินของมันแตกต่างจากหมีโดยสิ้นเชิง แพนด้าเป็นสัตว์กินพืชเป็นอาหาร
โดย 99% ของอาหารที่มันกินคือไผ่แต่บางทีอาจพบว่ามันก็กินไข่
ปลา และแมลงบางชนิดในไม้ไผ่ที่มันกิน นี่เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ
หลายสิบปีที่ผ่านมา
การจัดจำแนกสายพันธุ์ที่แน่นอนของแพนด้ายังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แพนด้ายักษ์และแพนด้าแดงซึ่งเป็นญาติสายพันธุ์ห่าง ๆ กัน และยังมีลักษณะพิเศษที่เหมือนทั้งหมีและแรคคูน อย่างไรก็ตาม การทดลอง
ทางพันธุกรรมบ่งบอกว่าแพนด้ายักษ์เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของหมีที่สายพันธุ์ใกล้เคียงที่สุดของแพนด้าคือหมีแว่นของอเมริกาใต้ (ข้อขัดแย้งที่ยังคงเป็นที่สงสัยอยู่คือแพนด้าแดงนั้นอยู่ในวงศ์ใด
เป็นที่ถกเถียงว่าอาจจะอยู่ในวงศ์หมี (Ursidae), วงศ์แรคคูน, วงศ์โพรไซโอนิดี้ (Procyonidae), หรืออยู่ในวงศ์เฉพาะของมันเอง วงศ์ไอเลอริดี้ (Ailuridae)
แพนด้าเป็นสัตว์สปีชีส์ที่ถูกคุกคามหรืออยู่ในอันตรายต่อการสูญพันธ์
ทั้งนี้มาจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่จากการบุกรุกของมนุษย์
อัตราการเกิดต่ำทั้งในป่าและในกรงเลี้ยง เชื่อว่ามีแพนด้ายักษ์เพียง 1,600 ตัว
อาศัยอยู่รอดในป่าหมีแพนด้ามีอุ้งตีนที่ผิดจากธรรมดา คือมีนิ้วหัวแม่มือ
และมีนิ้วอีก 5 นิ้ว
นิ้วหัวแม่มือที่จริงแล้วมาจากการปรับปรุงรูปแบบของกระดูกข้อต่อ สตีเฟน เจย์
กาวลด์ ได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้
โดยมีชื่อเรื่องว่า The Panda's Thumb หรือ นิ้วหัวแม่มือของแพนด้า หางของแพนด้ายักษ์นั้นสั้นมาก
โดยมีความยาวประมาณ 15 เซนติเมตร
แพนด้ายักษ์
เป็นที่รู้จักในตะวันตกเป็นครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1869 โดยมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส อาร์มันด์ เดวิด ผู้ซึ่งได้รับหนังของแพนด้ามาจากนายพรานเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 1869 ส่วนชาวตะวันตกคนแรกที่เป็นที่รู้จัก ว่าเห็นแพนด้ายักษ์ที่ยังมีชีวิตคือนักสัตว์วิทยาเยอรมัน ฮิวโก เวยโกลด์ เขาซื้อลูกของมันมาในปี ค.ศ. 1916 เคอร์มิท และ ธีโอดอร์ รูสเวลท์ จูเนียร์ ได้เป็นชาวต่างชาติแรก
ที่ยิงแพนด้าในการเดินทางศึกษาที่ประเทศจีน เพื่อนำไปสตัฟฟ์และใช้ในการศึกษาที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ฟิลด์ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920
ในปี ค.ศ. 1936 รุธ ฮาร์คเนสเป็นชาวตะวันตกคนแรก
ที่นำเข้าแพนด้ายักษ์ที่มีชีวิตมายังสหรัฐฯ เป็นลูกแพนด้าชื่อซู-ลิน
โดยนำมาเลี้ยงที่สวนสัตว์บรูคฟิลด์ในชิคาโก
แพนด้ายักษ์ถือเป็นสัญลักษณ์ทางการทูตอย่างหนึ่งของจีน
จะเห็นได้ว่าจีนส่งหมีแพนด้าไปยังสวนสัตว์สหรัฐอเมริกา และ ญี่ปุ่น ในช่วงคริสต์ทศวรรษ
1970 โดยการให้ยืม ซึ่งเป็นเครื่องหมายการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและชาติตะวันตก
การปฏิบัติเป็นธรรมเนียมเช่นนี้ทำให้มีคนเรียกแพนด้าว่า "ทูตสันถวไมตรี"
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 ไม่มีการใช้หมีแพนด้าในฐานะทูตสันถวไมตรีอีกต่อไป
แต่จีนมีการเสนอที่จะส่งแพนด้ายักษ์ไปยังชาติอื่นโดยให้ยืมเป็นเวลา 10 ปี โดยต้องจ่ายค่าธรรมเนียมพื้นฐานปีละ 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ และมีข้อกำหนดว่าลูกของแพนด้ายักษ์ใด
ๆ ที่เกิดระหว่างการยืมนั้น ถือเป็นทรัพย์สินของ
หมีแว่น (Spectacled Bear)
เป็นหมีสายพันธุ์ที่ค่อนข้างเล็กเป็นหมีพื้นเมืองของอเมริกาใต้ มีขนสีดำกับสีเบจมีลักษณะสีที่โดดเด่น เกือบทั่ว ใบหน้าและส่วนบนของหน้า
คล้ายใส่แว่นอยู่ เพศผู้มีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย เพศผู้มีน้ำหนัก
100 - 200 กิโลกรัม
(220-440 ปอนด์ ) และเพศเมียหนัก 35 -82 กิโลกรัม (77-181 ปอนด์) ความยาวประมาณ
120-200 ซม. (47-79 นิ้ว)
ยาวและความสูงที่ไหล่ 60-90 ซม. (24-30 นิ้ว) หมีแว่นถูกพบในหลายพื้นที่ของภาคเหนือและตะวันตกอเมริกาใต้
รวมทั้งภาคตะวันออกของปานามา , ตะวันตกของเวเนซูเอลา, โคลอมเบีย ,เอกวาดอร์ ,เปรู , ตะวันตกของโบลิเวียและทางตะวันตกเฉียงเหนืออาร์เจนตินา
หมีแว่นเป็นสายพันธุ์เดียวที่หลงเหลืออยู่ของหมีพื้นเมืองอเมริกาใต้และสมาชิกที่รอดตายเพียงพันธุ์เดียวของอนุวงศ์Tremarctinae . หมีแว่นมีความสามารถในการปีนป่ายอย่างดี
แม้กระทั่งต้นไม้ที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอนดี
หมีดำ American Black Bear
จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง ชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีถิ่นที่อยู่ในป่าทางตอนเหนือของอเมริกา
พบได้ทั่วไปในป่าร้อนชื้นความสูง; 2-3 ฟุต (0.6-0.9 เมตร) รอบตัว; 4-7 ฟุต (1.2-2เมตร)
น้ำหนัก; 150-300 ปอนด์ หรือ 68-158 กิโลกรัม
ในเพศเมียจะมีขนาดเล็กกว่า เพศผู้สามารถเจริญเติบโตได้สูงสุด 500-600 ปอนด์ หรือ 227-272 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยยืนยาว 10-
30 ปี
หมีสีน้ำตาล Brown
bear
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในอันดับสัตว์กินเนื้อ ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง จัดเป็นหมีที่มีขนาดใหญ่มาก โดยตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย เมื่อยืน 4 เท้ามีความสูงถึง
5 ฟุต และเมื่อยืนด้วย 2 เท้า อาจสูงถึง 9 ฟุต แต่ยืนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
เท่านั้น ตัวผู้เมื่อโตเต็มที่อาจมีน้ำหนักมากถึง1,000 ปอนด์ ส่วนตัวเมียอาจมีน้ำหนักมากกว่า 450 ปอนด์ มีขนสีน้ำตาลตลอดทั้งลำตัว
อันเป็นที่มาของชื่อ ปุ่มหรือเนินตรงหัวไหล่ มีขนและเล็บยาว มีจมูกที่ใหญ่ แต่มีใบหูขนาดเล็ก
แต่จะมีขนสีเข้มหรืออ่อนไปตามสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศที่อาศัย รวมถึงขนาดตัวด้วย
ซึ่งถือเป็นชนิดย่อย (ดูในตาราง) โดยกระจายพันธุ์ไปในพื้นที่ ๆ กว้างไกลมาก ตั้งแต่อะแลสกา, แคนาดา, รัสเซีย, หลายพื้นที่ในยุโรป และตามแนวเทือกเขาหิมาลัยในอินเดีย, เนปาล และจีน และตะวันออกกลาง
กินอาหารได้หลากหลายมาก ทั้งพืชและสัตว์ โดยหากเป็นพืชมักจะเป็นผลไม้ประเภทเบอร์รี่ บางครั้งกินสัตว์ขนาดเล็ก เช่น แมลง หรือ หนู แต่บางครั้งก็กินสัตว์ใหญ่ เช่น ม้า, วัวป่า, กวาง รวมถึงซากสัตว์ ในช่วงฤดูกาลที่มีอาหารสมบูรณ์ อาหารที่หมีสีน้ำตาลชอบมาก
คือ ปลาแซลมอน และปลาเทราท์
หมีสีน้ำตาลตัวเมียต้องมีอายุ
4 ถึง 10 ปี จึงจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และให้กำเนิดลูกโดยเฉลี่ย 2 ตัว ในระยะเวลา 4 ปี
ฤดูกาลผสมพันธุ์อยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อน แม่หมีจะให้กำเนิดลูกในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ปกติ 2-3 ตัว โดยลูกหมีที่เกิดใหม่จะยังไม่ลืมตา และยังไม่มีขน
ลูกหมีจะอาศัยอยู่ในถ้ำที่แม่หมีขุดขึ้นมาจนกระทั่งถึงเดือนเมษายน หรืออาจถึงเดือนมิถุนายน และเริ่มหย่านมเมื่ออายุประมาณ 5 เดือน และเริ่มเรียนรู้ว่า พืชหรือสัตว์ประเภทไหนที่ใช้เป็นอาหาร ลูกหมีจะอยู่กับแม่อย่างน้อยอีก
1 ปี หรือมากกว่านั้น จากนั้นจึงเริ่มแยกตัวออกไป ส่วนในฤดูหนาว หมีสีน้ำตาลจะจำศีลในถ้ำเป็นระยะเวลาราว 2 เดือน โดยใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมไว้
หมีกริซลีย์ Grizzly bear
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในอันดับสัตว์กินเนื้อ จัดเป็นชนิดย่อยของหมีสีน้ำตาล
จัดได้ว่าเป็นหมีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังคงดำรงเผ่าพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน
และถือว่าเป็นสัตว์ในอันดับสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย
เมื่อตัวผู้ที่มีขนาดโตเต็มที่อาจมีน้ำหนักได้ถึง
180-980 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน และยืนด้วยสองขามีความสูงถึง 2.5 เมตร หรือ 3 เมตร
มีรูปร่างและสีขนทั่วไปเหมือนกับหมีสีน้ำตาลทั่วไป
แต่มีความแตกต่างกันตรงที่ หมีกริซลีย์จะมีขนาดรูปร่างและน้ำหนักใหญ่กว่ามาก
มีส่วนจมูกและปากที่ยื่นแหลมออกมา และมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากตรงบริเวณระหว่างหัวไหล่ของขาหน้าทั้ง
2 ข้าง ที่ปูดเป็นหนอกขึ้นมา ซึ่งไม่มีในหมีชนิดอื่น ๆ
ซึ่งทำให้หมีกริซลีย์มีพละกำลังในการขุด, ตะปบ, ปีนป่าย และวิ่ง ซึ่งความเร็วในการวิ่งเร็วถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีเล็บนิ้วยาวและแข็งแรง แหลมคม ซึ่งมีความยาวพอ ๆ กับนิ้วมือมนุษย์ สามารถกินได้ทั้งเนื้อสัตว์และพืช, ผักผลไม้เป็นอาหาร เช่น
ผลไม้จำพวกเบอร์รี แต่อาหารหลักของหมีกริซลีย์แล้วจะเป็นปลา โดยจะลงไปจับในลำธารหรือน้ำตกขณะที่ปลาว่ายผ่าน
หมีหมา หรือ หมีคน Malayan sun bear, Honey bear
หมีหมาเป็นหมีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ลำตัวยาวประมาณ 1 เมตร ขนตามตัวสั้นสีดำปนสีน้ำตาล ขนบริเวณอกโค้งเป็นรูปตัว U สีขาวนวล บริเวณหน้าตั้งแต่ตาไปถึงปลายจมูกสีค่อนข้างขาว
หรือน้ำตาลอ่อน ปกติหมีหมาหากินกลางคืน บางครั้งก็ออกหากินกลางวัน มักหากินเป็นคู่
อยู่ในป่าทึบ ไม่ชอบอยู่ตามเขา ดุร้ายและขึ้นต้นไม้เก่งกว่าหมีควาย (U.
thibetanus) มีอุปนิสัยโมโหง่าย ชอบนอนบนต้นไม้หรือตามโพรงไม้สูง ๆ
ไม่ชอบนอนพื้นดิน บางครั้งร้องคล้ายเสียงสุนัขเห่ากระโชก
จึงเรียกว่า หมีหมา เมื่อยืน 2 ขา จะยืนตัวตรง จึงเรียกอีกชื่อว่า หมีคน
หมีหมา พบในพม่า, อินโดจีน, ไทย, มาเลเซีย, สุมาตรา, บอร์เนียว, ภาคใต้ของจีน ในประเทศไทยพบมากทางภาคใต้หมีหมา
ชอบกินลูกไม้ ใบไม้อ่อน สัตว์เล็ก ๆ แมลงรวมทั้งไส้เดือน ที่ชอบมาก คือน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังชอบกินเนื้ออ่อนของมะพร้าว จะมีการผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี ตั้งท้องประมาณ 95-96 วัน ปกติออกลูกครั้งละ 1-2
ตัว อายุยืนถึง 20 ปี
หมีขาว หรือ หมีขั้วโลก Polar bear
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในอันดับสัตว์กินเนื้อจัดเป็นหมีชนิดหนึ่งหมีขาว
ถือได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อบนพื้นดินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจากหมีกริซลีย์ (U. arctos
horribilis) (บางข้อมูลจัดให้เป็นที่ 1) ที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ ตัวผู้เต็มวัยอาจสูงได้ถึง 3 เมตร น้ำหนักตัวอาจมากได้ถึง
350–680 กิโลกรัม (770–1,500 ปอนด์) หมีขาวมีรูปร่างที่แตกต่างจากหมีชนิดอื่น ๆ
ที่เห็นได้ชัดเจน คือ มีส่วนคอที่ยาวกว่า ขณะที่ใบหูก็มีขนาดเล็ก
อุ้งเท้ามีขนาดใหญ่ และที่เป็นจุดเด่นเห็นได้ชัด คือ สีขนที่เป็นสีขาวครีมอมเหลืองอ่อน ๆ
อันเป็นที่มาของชื่อเรียก เนื่องจากถูกความเค็มของเกลือในทะเล ซึ่งขนสีครีมนี้ทำให้พรางตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งได้เป็นอย่างดี
หมีขาวกระจายพันธุ์อยู่เฉพาะซีกโลกทางเหนือ บริเวณขั้วโลกเหนือหรืออาร์กติกเท่านั้น
จัดได้ว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกนี้
อุ้งเท้าของหมีขาวมีขนรองช่วยให้ไม่ลื่นไถลไปกับความลื่นของพื้นน้ำแข็ง
หมีขาวถือเป็นสัตว์ที่เดินทางไกลมาก
โดยบางครั้งอาจจะใช้วิธีการนั่งบนแผ่นหรือก้อนน้ำแข็งลอยตามน้ำไป หรือไม่ก็ว่ายน้ำหรือดำน้ำไป ซึ่งหมีขาวจัดเป็นหมีที่ว่ายน้ำและดำน้ำเก่งมาก
โดยใช้ขาหน้าพุ้ย หรือบางครั้งก็ใช้ทั้ง 4 ขา เคยมีผู้พบหมีขาวว่ายอยู่ในทะเลที่ห่างจากชายฝั่งไกลถึง 200 ไมล์ เป็นหมีที่ถือได้ว่ากินอาหารมากกว่าหมีชนิดอื่น
ๆ ซึ่งอาหารของหมีขาวมีมากมาย เช่น แมวน้ำ หรือ วอลรัส ด้วยการย่องเข้าไปเงียบ ๆ หรือหลบซ่อนตัวตามก้อนหินหรือก้อนน้ำแข็ง นอกจากนี้แล้วบางครั้งยังอาจจับนกทะเล ทั้งไข่และลูกนก บางครั้งก็จับปลากิน หรืออาจจะกินซากของวาฬที่ตายเกยตื้นได้อีกด้วย เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวในเขตอาร์กติก
(ราวเดือนธันวาคม-มกราคม) ดวงอาทิตย์จะค่อย
ๆ คล้อยต่ำลงเรื่อย ๆ จนไม่ปรากฏอีกเลยที่เส้นขอบฟ้าตลอดฤดูกาล
ซึ่งช่วงเวลานี้นับได้ว่าเป็นช่วงที่หฤโหดที่สุดในภูมิภาคนี้ เพราะไม่มีแสงสว่าง กลางวันจะมืดเหมือนกลางคืน อาหารก็ขาดแคลน พร้อมด้วยพายุหิมะติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน
หมีขาว ในช่วงเวลานี้จะเป็นเวลาที่ให้กำเนิดลูก
โดยการขุดโพรงในน้ำแข็งหรือใต้ก้อนหิน เมื่อหิมะตกทับถมมา ผนังถ้ำจะหนาขึ้น และมีความอบอุ่นคล้ายกับอิกลูของชาวเอสกิโม
แม่หมีจะคลอดลูกภายในถ้ำนั้น ลูกหมีเกิดใหม่จะมีความยาวราว 20 นิ้วเท่านั้น และมีน้ำหนักตัวไม่ถึงกิโลกรัมดี
ซึ่งครั้งหนึ่ง แม่หมีจะออกลูกได้ราว 2 ตัว ในบางครั้งอาจมากถึง 4 ตัว
ลูกหมีเกิดใหม่ตาจะยังไม่ลืม และยังไม่มีขนปกคลุมตามลำตัว
และจะลืมตาได้เมื่ออายุราว 33 วัน แต่เลนส์ตาจะยังใช้การไม่ได้เต็มที่จนเมื่อมีอายุประมาณ
47 วัน และ ประสาทหูจะได้ยินเมื่ออายุ 26 วัน แต่จะใช้การได้ดีที่สุดเมื่ออายุได้ 3 เดือน เมื่อลูกหมีอายุเข้า 6 สัปดาห์ครึ่ง
ก็ตรงกับช่วงระยะเวลาที่ผ่านพ้นฤดูหนาวพอดี
สำหรับแม่หมีในช่วงนี้จะไม่กินอาหารเลย
แต่จะใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมไว้
แม้กระทั่งหมีตัวผู้ก็จะเข้าสู่ถ้ำเพื่อจำศีล เมื่อผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้ว
หิมะและน้ำแข็งเริ่มละลาย แสงแดดกลับมาอีกครั้ง (เดือนมีนาคม-เมษายน) ซึ่งในช่วงนี้ หมีตัวเต็มวัยอาจจะกินหญ้าหรือมอสส์ เป็นอาหารรองท้องได้ ลูกหมีจะหย่านม แม่หมีจะพาลูก ๆ
ตระเวนไปในที่ต่าง ๆ เพื่อสอนวิธีการล่าเหยื่อให้
ลูกหมีจะอยู่กับแม่จนอายุได้ขวบกว่า จากนั้นจะจากแม่ไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
หมีขาว ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศรัสเซีย
หมีควาย Asiatic black bear, Tibetan black bear
จัดเป็นหมี 1 ใน 2 ชนิดที่พบได้ในประเทศไทย อีกหนึ่งคือ หมีหมา หมีควายมีลำตัวอ้วนใหญ่ หัวมีขนาดใหญ่ ตาเล็กและหูกลม ขาอ้วนล่ำและหนา
หางสั้น มีนิ้วเท้ายาวทั้งหมดห้านิ้ว กรงเล็บสั้น ขนตามลำตัวหยาบมีสีดำ มีลักษณะเด่นคือ ขนบริเวณหน้าอกเป็นรูปตัว V มีสีขาว ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมียเล็กน้อย ความยาวลำตัวและหัว 120-150 เซนติเมตร ความยาวหาง 6.5-10 เซนติเมตร น้ำหนักอาจหนักได้ถึง 200 กิโลกรัม
หมีควาย
มีการกระจายพันธุ์ที่ค่อนข้างกว้างขวางพบตั้งแต่ ภาคตะวันออกของปากีสถาน, ภาคเหนือของอินเดีย, ธิเบต, เนปาล, สิกขิม, ภูฐาน, พม่า, ไทย, ลาว,เวียดนาม, จีน, คาบสมุทรเกาหลี, ญี่ปุ่น และภาคตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย มักเลือกอาศัยอยู่ในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีอากาศเย็น เช่น ป่าบนภูเขาหินปูน
หมีควายกินอาหารได้หลากหลาย เช่น เนื้อสัตว์, ผลไม้, ใบไม้, หน่อไม้, ซากสัตว์, แมลง, รังผึ้ง และตัวอ่อนของผึ้ง บางครั้งอาจเข้ามากินในพื้นที่เกษตรกรรม
มักออกหากินในเวลากลางคืน ปีนต้นไม้ไม่เก่ง
แต่ชอบฉีกเปลือกไม้เพื่อหาแมลงใต้เปลือกไม้
หรือใช้แสดงเป็นสัญลักษณ์บอกถึงอาณาเขตของ
ตัว
ตามปกรติมักอาศัยและหากินตามลำพัง แต่ในฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อน
อาจหากินเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ใช้เวลาตั้งท้องนาน 7-8 เดือน ออกลูกครั้งละไม่เกิน 2 ตัว
ตามโพรงไม้หรือในถ้ำที่ปลอดภัย หมีควายเป็นสัตว์ที่สายตาไม่ค่อยดี
จึงค่อนข้างดุร้าย เมื่อตกใจหรือสงสัยจะยืนด้วยขาหลัง
ต่อสู้กับศัตรูโดยการตะปบด้วยขาหน้าและกัดด้วยฟันอย่างรุนแรง
นอกจากนี้แล้วยังมีพฤติกรรมที่แปลก คือ ชอบขดตัวกลมแล้วกลิ้งลงมาจากเนินเขา
สันนิษฐานว่าเป็นการเล่นสนุก
หมีสลอท (Sloth Bear)
เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์หมี (Ursidae)
ถือเป็นสัตว์ประจำถิ่นในป่าพื้นต่ำของหลายประเทศ รวมถึงอินเดีย
เนปาล ปากีสถาน ภูฏาน บังกลาเทศ และศรีลังกา จัดเป็นหมีเพียงชนิดเดียวในสกุล Melursus
ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยถูกจัดเป็นตัวสลอทหมี เพราะเท้าเป็นลักษณะกรงเล็บโค้งเข้าหาลำตัว
และชอบอาศัยหรือใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนต้นไม้หรือพุ่มไม้เหมือนตัวสลอท
ก่อนถูกจัดอยู่ในกลุ่มหมีราวช่วงทศวรรษ 1800
เจ้าหมีสลอทมีหน้าตาไม่ต่างไปจากหมีหมาหรือหมีคนสักเท่าไร ลำตัวยาวประมาณ 150-190 เซนติเมตร มีขนยาวสีออกน้ำตาลอ่อน
สีน้ำตาลแดง ไปจนถึงสีดำ ที่หน้าอกมีขนสีขาวรูปตัววี จมูกยาวสีขาว
ริมฝีปากยืดห่างจากเหงือก และไม่มีขากรรไกรบน
ซึ่งเป็นลักษณะของการปรับตัวเพื่อกินอาหารที่มีแมลงเป็นหลัก
ส่วนเท้ามีลักษณะเป็นกรงเล็บโค้ง เหมาะสำหรับใช้ขุดและปีนต้นไม้
และมีรอยเท้าคล้ายมนุษย์ ตัวผู้มีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวเมีย โดยจะหนักประมาณ 80-140
กิโลกรัม เทียบกับน้ำหนัก 55-95 กิโลกรัมของตัวเมีย
และมีหางยาวที่สุดในตระกูลหมี นอกจากนี้ยังเป็นสัตว์อายุยืน
ตัวที่เลี้ยงไว้ในกรงสามารถอยู่ได้นานถึง 40 ปี
เจ้าหมีสลอทนอกจากปีนป่ายต้นไม้เก่ง กินนอนอยู่บนต้นไม้เป็นหลักแล้ว มันยังสามารถกระโดดได้ในระยะไกลถึง 10 ฟุต และห้อยหัวลงจากต้นไม้ได้เหมือนสลอท ส่วนเขตที่อยู่นั้นมันจะทำเครื่องหมายบอกชัดเจนด้วยวิธีถูสีข้างกับต้นไม้หรือใช้เล็บขูดเปลือกต้นไม้ และเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสดี จมูกดี หูดี สามารถได้ยินเสียงในระยะไกลนับ 100 ฟุต
เจ้าหมีสลอทนอกจากปีนป่ายต้นไม้เก่ง กินนอนอยู่บนต้นไม้เป็นหลักแล้ว มันยังสามารถกระโดดได้ในระยะไกลถึง 10 ฟุต และห้อยหัวลงจากต้นไม้ได้เหมือนสลอท ส่วนเขตที่อยู่นั้นมันจะทำเครื่องหมายบอกชัดเจนด้วยวิธีถูสีข้างกับต้นไม้หรือใช้เล็บขูดเปลือกต้นไม้ และเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสดี จมูกดี หูดี สามารถได้ยินเสียงในระยะไกลนับ 100 ฟุต
เจ้าหมีสลอทชอบออกหากินในเวลากลางคืน นอนในเวลากลางวัน อาหารหลักของมันคือ
มดและปลวก โดยมันอาศัยกรงเล็บที่แข็งแรงพังจอมปลวก ส่วนอาหารอื่นๆก็มีพวกน้ำผึ้ง
ไข่ นก ดอกไม้ ผลไม้ เนื้อ และธัญพืชอื่นๆ มันสามารถกินอาหารได้หลายอย่าง
สล็อต kc9 slot เว็บใหญ่ แนวทางใหม่ คนเล่นง่ายดายยิ่งกว่าเดิม pgslot เว็บตรง ไม่ผ่านคนกลาง อะไรก็แล้วแต่ทั้งหมดทั้งปวง และก็เป็นตัวเลือก มาพร้อมกับการให้บริการอย่างเหมาะควร
ตอบลบเว็บสล็อตpg ทั้งหมด เป็นหนึ่งในเกมส์คาสิโนที่ได้รับความนิยมและความสนใจอย่างสูงในวงกว้างในปัจจุบัน PG ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเล่นเกมส์สล็อตออนไลน์
ตอบลบ